ความแตกต่างระหว่าง HSPA+ HSDP HSUPA
HSPA คือการรวมตัวกันของ HSDPA และ HSUPA เป็นการพัฒนาอีกขั้นของระบบ WCDMA ให้ดีและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เริ่มมีการพัฒนามาตั้งแต่ปี 2008 แล้วแต่ว่าพึ่งมายอมรับหรือใช้งานกันแพร่หลายจริงๆเมื่อปี 2010 ชือเรียกของมันแบบทางการหน่อยก็คือ Evolved HSPA(หรือ HSPA+)
HSPA = High Speed Packet Access
HSDPA = High Speed Downlink Packet Access
HSUPA = High Speed Uplink Packet Access
HSDPA คือการพัฒนาเพื่อเพิ่มความเร็วในด้านการดาว์โหลดของระบบ WCDMA (ที่เราชอบเรียกกันว่า 3G นี่หละ) จนมันมีความเร็วอยู่ที่ 14 Mbit / s ซึ่งการพัฒนาที่ว่านี้จะเป็นการอัพเกรดปรับปรุงซอฟต์แวร์ซะเป็นส่วนใหญ่ เช่นว่าเดิมทีแล้วไอเจ้าระบบ wcdma ที่มีอยู่เนี่ยมันทำความเร็วในการเชื่อมต่อข้อมูลได้ 7.2 Mbit / s แค่นั้นเอง แต่หลังจากที่ได้รับการปรับปรุงในส่วนต่างๆใหม่เรียบร้อยแล้ว เจ้าระบบ wcdma เดิมที่มีอยู่ก็มีขีดความสามรถเพิ่มขึ้นมาทันที่ คราวนี้สามารถทำความเร็วในการดาว์โหลดได้ถึง 14 Mbit / s แล้วนะ
HSUPA คือการพัฒนาในขั้นต่อมาของระบบ WCDMA (ก็บอกแล้วว่าทั้งหมดนี้คือการอัพเกรดของwcdmaเขา) และเพื่อไม่ให้เป็นการน้อยใจในด้านการอัพโหลดข้อมูลจึงได้มีการพัฒนาความเร็วการอัพลิ้งค์จนมีความเร็วมากขึ้นถึง 5.8 Mbit / s ก็เพื่อรองรับโปรแกรมต่างๆที่ออกมาใหม่ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที ไม่ว่าจะเป็นบริการ Voip การอัพโหลดรูปที่มีขนาดใหญ่ๆ
HSPA+ (หรือจะเรียกว่า HSPA Evolution, HSPA+, I-HSPA, Internet HSPA ก็ได้) ก็เลยกลายมาเป็นมาตรฐานบรอดแบนด์ชนิดไร้สายที่รวมเอา HSDPA และ HSUPAเข้าด้วยกัน
HSPA = High Speed Packet Access
HSDPA = High Speed Downlink Packet Access
HSUPA = High Speed Uplink Packet Access
HSDPA คือการพัฒนาเพื่อเพิ่มความเร็วในด้านการดาว์โหลดของระบบ WCDMA (ที่เราชอบเรียกกันว่า 3G นี่หละ) จนมันมีความเร็วอยู่ที่ 14 Mbit / s ซึ่งการพัฒนาที่ว่านี้จะเป็นการอัพเกรดปรับปรุงซอฟต์แวร์ซะเป็นส่วนใหญ่ เช่นว่าเดิมทีแล้วไอเจ้าระบบ wcdma ที่มีอยู่เนี่ยมันทำความเร็วในการเชื่อมต่อข้อมูลได้ 7.2 Mbit / s แค่นั้นเอง แต่หลังจากที่ได้รับการปรับปรุงในส่วนต่างๆใหม่เรียบร้อยแล้ว เจ้าระบบ wcdma เดิมที่มีอยู่ก็มีขีดความสามรถเพิ่มขึ้นมาทันที่ คราวนี้สามารถทำความเร็วในการดาว์โหลดได้ถึง 14 Mbit / s แล้วนะ
HSUPA คือการพัฒนาในขั้นต่อมาของระบบ WCDMA (ก็บอกแล้วว่าทั้งหมดนี้คือการอัพเกรดของwcdmaเขา) และเพื่อไม่ให้เป็นการน้อยใจในด้านการอัพโหลดข้อมูลจึงได้มีการพัฒนาความเร็วการอัพลิ้งค์จนมีความเร็วมากขึ้นถึง 5.8 Mbit / s ก็เพื่อรองรับโปรแกรมต่างๆที่ออกมาใหม่ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที ไม่ว่าจะเป็นบริการ Voip การอัพโหลดรูปที่มีขนาดใหญ่ๆ
HSPA+ (หรือจะเรียกว่า HSPA Evolution, HSPA+, I-HSPA, Internet HSPA ก็ได้) ก็เลยกลายมาเป็นมาตรฐานบรอดแบนด์ชนิดไร้สายที่รวมเอา HSDPA และ HSUPAเข้าด้วยกัน
Post a Comment