รีวิว Eye-fi Connect X2
การ์ด Eye-fi นั้นเป็น SD Card ที่มีเทคโนโลยีแบบไร้สายที่เรารู้จักกันดีในชื่อว่า Wi-Fi นอกจากตัวของการ์ดจะเป็น Wi-Fi ผู้ผลิตยังมีซอฟท์แวร์ที่เป็น Adobe Air แอปพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า Eye-fi Center ที่มีหน้าที่ในการรับส่งไฟล์ภาพรวมทั้งไฟล์ภาพยนตร์จากกล้องของเรามาสู่คอมพิวเตอร์และนำขึ้นเวบไซต์ที่บางเวบไซต์ที่เป็นที่นิยมได้อย่างอัตโนมัติ เช่น facebook หรือ YouTube
รวมถึง Eye-fi ยังทำงานร่วมกับซอฟท์แวร์อย่าง Lightroom และ Aperture ได้อีกด้วย
โดย Eye-fi นั้นได้ถูกวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในช่วงปลายปี ค.ศ. 2007 และมีการปรับรุ่นเพิ่มความสามารถขึ้นมาเรื่อยๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยุคของรุ่น X2 ในช่วงต้นปี 2010 ซึ่ง X2 นั้นก็มีทั้งหมดถึง 4 รุ่น คือ
Connect X2
Geo X2
Explore X2
Pro X2
โดยรุ่นที่ผมเลือกมาใช้งานนั้นก็คือ Connect X2
การติดตั้ง Eye-fi นั้นก็เป็นเรื่องที่แสนจะง่ายดาย คุณเพียงแค่เสียบ Card Reader และ Eye-fi เข้ากับคอมพิวเตอร์ของคุณ ซอฟท์แวร์ก็จะทำงานทุกอย่างให้โดยอัตโนมัติ (สำหรับวินโดวส์) อาจจะต้องรอสักพักหนึ่งเพื่อให้คอมพิวเตอร์ของคุณเจอการ์ด Eye-fi และหลังจากนั้นคุณก็แค่เพียงอ่านข้อความคลิ๊ก และใส่ข้อมูลบางอย่างเท่านั้นการติดตั้งก็เรียบร้อย
เมื่อใช้งานนั้นความเร็วของการ์ดนั้นสูงมาก เร็วทันใจ ไม่แพ้การ์ดรีดเดอร์ ตัวผมเองนั้นใช้ Wi-Fi IEEE 802.11g ซึ่งเป็นมาตราฐานก่อนมาตราฐานปัจจุบัน ความเร็วเมื่อโอนถ่ายไฟล์ภาพ JPEG ของกล้อง Nikon D300s นั้นยังมีความรวดเร็วดังที่เห็นในวิดีโอ
ส่วนเวลาใช้งานจริงนั้น นอกจากเครื่องเราจะมี Wi-Fi แล้ว เราจะต้องมี Wireless Router ด้วย การใช้งานก็แสนจะง่ายดาย เปิดคอม-เปิดกล้อง แล้ว Eye-fi Center ก็จะจัดการทุกสิ่งทุกอย่างตามที่เราสั่งการไว้ล่วงหน้า หากว่าเราเผลอปิดกล้องไปเมื่อ Eye-fi Center นั้นยังทำงานอยู่ก็ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด เพราะซอฟท์แวร์จะมีการอัพโหลดไฟล์ของเราต่ออีกครั้งเมื่อเราเปิดกล้องขึ้นมาอีกหน
โดยรุ่นที่เหนือกว่านี้นั้นจะสามารถอัพโหลด RAW ไฟล์ บันทึกพิกัด GPS (โดยใช้ WPS หรือระบุพิกัดด้วยระบบ Wi-Fi network) รวมถึงความสามารถอื่นๆ เช่น การอัพโหลดไฟล์ภาพขึ้นอุปกรณ์แบบมือถือต่างๆ (iOS หรือ Android) โดยตรง โดยไม่ต้องเชื่อเข้ากับ Wi-Fi router
และเท่าที่ทดสอบมันก็สามารถใช้งานร่วมกับกล้องที่ผมมีได้ทุกรุ่น-ทุกยี่ห้อ
รวมถึง Eye-fi ยังทำงานร่วมกับซอฟท์แวร์อย่าง Lightroom และ Aperture ได้อีกด้วย
โดย Eye-fi นั้นได้ถูกวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในช่วงปลายปี ค.ศ. 2007 และมีการปรับรุ่นเพิ่มความสามารถขึ้นมาเรื่อยๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยุคของรุ่น X2 ในช่วงต้นปี 2010 ซึ่ง X2 นั้นก็มีทั้งหมดถึง 4 รุ่น คือ
Connect X2
Geo X2
Explore X2
Pro X2
โดยรุ่นที่ผมเลือกมาใช้งานนั้นก็คือ Connect X2
การติดตั้ง Eye-fi นั้นก็เป็นเรื่องที่แสนจะง่ายดาย คุณเพียงแค่เสียบ Card Reader และ Eye-fi เข้ากับคอมพิวเตอร์ของคุณ ซอฟท์แวร์ก็จะทำงานทุกอย่างให้โดยอัตโนมัติ (สำหรับวินโดวส์) อาจจะต้องรอสักพักหนึ่งเพื่อให้คอมพิวเตอร์ของคุณเจอการ์ด Eye-fi และหลังจากนั้นคุณก็แค่เพียงอ่านข้อความคลิ๊ก และใส่ข้อมูลบางอย่างเท่านั้นการติดตั้งก็เรียบร้อย
เมื่อใช้งานนั้นความเร็วของการ์ดนั้นสูงมาก เร็วทันใจ ไม่แพ้การ์ดรีดเดอร์ ตัวผมเองนั้นใช้ Wi-Fi IEEE 802.11g ซึ่งเป็นมาตราฐานก่อนมาตราฐานปัจจุบัน ความเร็วเมื่อโอนถ่ายไฟล์ภาพ JPEG ของกล้อง Nikon D300s นั้นยังมีความรวดเร็วดังที่เห็นในวิดีโอ
ส่วนเวลาใช้งานจริงนั้น นอกจากเครื่องเราจะมี Wi-Fi แล้ว เราจะต้องมี Wireless Router ด้วย การใช้งานก็แสนจะง่ายดาย เปิดคอม-เปิดกล้อง แล้ว Eye-fi Center ก็จะจัดการทุกสิ่งทุกอย่างตามที่เราสั่งการไว้ล่วงหน้า หากว่าเราเผลอปิดกล้องไปเมื่อ Eye-fi Center นั้นยังทำงานอยู่ก็ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด เพราะซอฟท์แวร์จะมีการอัพโหลดไฟล์ของเราต่ออีกครั้งเมื่อเราเปิดกล้องขึ้นมาอีกหน
โดยรุ่นที่เหนือกว่านี้นั้นจะสามารถอัพโหลด RAW ไฟล์ บันทึกพิกัด GPS (โดยใช้ WPS หรือระบุพิกัดด้วยระบบ Wi-Fi network) รวมถึงความสามารถอื่นๆ เช่น การอัพโหลดไฟล์ภาพขึ้นอุปกรณ์แบบมือถือต่างๆ (iOS หรือ Android) โดยตรง โดยไม่ต้องเชื่อเข้ากับ Wi-Fi router
และเท่าที่ทดสอบมันก็สามารถใช้งานร่วมกับกล้องที่ผมมีได้ทุกรุ่น-ทุกยี่ห้อ
Post a Comment